โรงเรียนวัดนาขุนแสน (แกละประชานุกูล)

หมู่ที่ 4 บ้านบ้านนาขุนแสน ตำบล สวนผึ้ง อำเภอ สวนผึ้ง จังหวัด ราชบุรี 70180

Mon - Fri: 9:00 - 17:30

032 240189

เมื่อโลกไม่เหลือใครอื่น

เมื่อโลกมีเเต่พวกเขา

เมื่อโลกมีเเต่พวกเขา

เมื่อโลกมีเเต่พวกเขา คู่รักคู่หนึ่งมาเที่ยวประเทศไอซ์แลนด์ระหว่างทางนั่งรถไปที่พักก็มีเสียงประกาศจากในรถว่าจะถึงแล้วพอได้ยินเสียงประกาศเขาก็ตื่นขึ้นมาและหยิบกล้องพร้อมกับถ่ายรูปบรรยากาศอันสวยงามข้างทางพอมาถึงที่พักทั้งคู่ก็วางสัมภาระและก็รีบออกไปเที่ยวด้วยกันทันทีทั้งคู่ได้ไปเที่ยวยังบ่อน้ำพุร้อนไกเซอร์ซึ่งระหว่างที่แช่บ่อน้ำร้อนกันอยู่นั้นเธอก็ดูจะเป็นห่วงเรื่องเงินที่ใช้เที่ยวอยู่พอสมควรแต่พอเล่นโคลนกันไปมาก็ทำให้เธอรู้เรื่องพวกนั้นไปรับมึงมานั่งทานข้าวกันเธอก็กังวลเรื่องที่เขาจะหาฟรีไม่ได้

เขาก็เลยบอกว่าเขาเอาครีมมาด้วยเยอะเลยแล้วเธอก็สงสัยว่าทำไมถึงยังใช้กล้องเก่าๆ มีอยู่อีกเขาเลยบอกว่าเขาชอบภาพแบบที่มันไม่ได้ปรุงแต่งมากกว่าครับพอทานอาหารเสร็จแล้วพวกเขาก็เดินไปเที่ยวที่โบสถ์ต่อจากนั้นก็ไปเที่ยวน้ำตกพอดื่มด่ำกับธรรมชาติจนพอใจแล้วพวกเขาก็กลับมาที่โรงแรมเพื่อพักผ่อนและในกลางดึกคืนนั้นเองขณะที่นางเอกกำลังดูแสงเหนืออยู่จู่ๆ ก็มีแสงสว่างจ้าเกิดขึ้นเธอรู้สึกงงๆ แล้วก็ตกใจกับมันมากครับรุ่งเช้าพระเอกก็เข้ามาปลุกนางเอกแล้วบอกให้ไปเที่ยวกันได้แล้ว แล้วอีกอย่างเขาก็หิวมากด้วยออกไปหาอะไรกินกันเถอะ

แต่เธอก็ยังไม่อยากตื่นสักเท่าไรดังนั้นเขาเลยไปหยิบผ้าห่มออกสุดท้ายเธอก็ลุกขึ้นมาจนได้ครับเมื่อลงไปที่ห้องอาหารเขาก็พบว่ามันไม่มีอาหารว่างมื้อเช้าเตรียมเอาไว้ดังนั้นเขาเลยชวนเธอไปคาเฟ่แทนแต่ก็พบว่าไม่มีใครอยู่อีกทั้งคู่เลยเดินออกไปข้างนอกเพื่อไปหาอะไรกินกันสักพัก เขาก็รู้สึกว่าเมืองทั้งเมืองนั้นไม่เงียบผิดสังเกตเขาเลยถามกับเธอว่านี่มันกี่โมงแล้วเธอจึงตอบว่าน่าจะซัก 10:30 น ละมั้งทำไมเหรอเขาเลยบอกว่ามันลงผิดปกติมากหรือว่าจะเป็นวันหยุดเธอเลยคิดว่าวันนี้น่าจะมีงานเทศกาลอะไรสักอย่างหรือเปล่า

เมื่อทั้งคู่รู้ว่าต่อให้พูดไปก็คงไม่รู้อะไรอยู่ดีดังนั้นพวกเขาจึงรีบเดินเข้าไปในเมืองซึ่งระหว่างเดินพระเอกก็พูดว่าถ้ามีงานอะไรจริงเราก็น่าจะได้ยินเสียงดังแล้วสิทำให้ตอนนี้ทั้งคู่ต่างก็เริ่มจะวิตกกังวลและหวาดกลัวกันจนมาดังนั้นเขาเลยตัดสินใจเข้าไปดูในร้านค้าเผื่อว่าจะมีคนอยู่ในนั้นแต่ไม่ว่าจะเดินไปดูอีกกี่หลังคาเรือนผัวเขาก็ไม่คบกับใครแล้วพระเอกก็บอกว่าเขาลองโทรไปที่ร้านอาหารเมื่อคืนก็ไม่มีใครรับสายเลยส่วนนางเอกก็บอกเขาว่าเธอได้โทรไปหาแม่แต่ก็ไม่มีใครรับสายเช่นกันครับเวลาต่อมาพวกเขาก็เดินเข้าไปยังร้านอาหารอื่นๆ

แต่ก็ยังไม่พบใครอยู่ดีเขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่เธอจึงบอกเขาว่าเราเดินมาจะครึ่งแล้วนะทุกคนหายไปไหนกันหมดแล้วเขาก็เลยไปหารีโมททีวีมาเปิดดูซึ่งเขาก็พบว่าช่องเขานะสัญญาณหายไปขอตังค์ครูออกมาจากร้านเธอก็บอกกับเขาว่าตอนนี้เธอเริ่มจะกลัวแล้วซึ่งเขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น อีกอย่างถ้าเกิดว่ามีโรคระบาดแล้วศพคนมันหายไปไหนหมดหรือจะเป็นมนุษย์ต่างดาวนางเอกที่ดูโทรศัพท์อยู่ก็บอกว่าไม่มีเมลไม่มีใครโพสต์อะไรเลยและก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นที่ไหนสักแห่งเลยด้วยครับ

ดังนั้นพอกลับมาถึงที่พักเธอก็เลยโทรไปหาคนที่เธอมีเบอร์ทั้งหมดส่วนเขาก็ไปเปิด Notebook Acer ทากาวหรือข้อมูลอะไรก็ได้ที่ยังมีการเคลื่อนไหวซึ่งเขาก็พบว่าอินเทอร์เน็ตยังใช้การได้อยู่แต่ก็ไม่มีบทความใหม่ๆ เลยนอกจากบทความของเมื่อวานถึงนานทำให้ทั้งสองคนอื่นสนุกแล้วก็สับสนมาเพราะไม่มีใครรับโทรศัพท์เลยสักคน แถมตอนนี้ทั้งเมืองก็กลายเป็นเมืองร้าง แล้วว่าจะส่องดูสถานที่อื่นๆ ทั่วโลกจากทางเน็ตก็ยังไม่เห็นคน

ดังนั้นพระเอกชื่อขอบใจนางเอกว่ามันต้องมีคนอื่นอยู่แน่ๆ ที่ไหนสักแห่งจากนั้นพวกเขาก็เดินลงมาข้างล่างแล้วก็พบรถคันหนึ่งที่จอดขวางถนน แต่เครื่องยังติดอยู่ว่าไม่มีคนขับเขาก็เลยขับรถคันนั้นออกค้นหาคนยังที่ต่างๆ ช่วงระหว่างทางนางเอกกับพระเอกว่าหรือนี่คือจุดจบ จุดจบแห่งเวลาแต่เขาก็ยังไม่ลดละความพยายามออกตามหาคนจนเหนื่อยพวกเขาก็มานั่งพักเหมือนเขาเห็นว่าเธอทำหน้าวิตกกังวลเขาเลยพยายามปลอบเธอแล้วก็บอกว่าอย่างน้อยเราก็ยังอยู่ด้วยกันครับลุง

พอตอนเช้าเขาก็เข้าไปปลุกเธอแล้วก็ชวนเธอไปทานอาหารเช้าแต่ดูเหมือนว่าเธอไม่อยากจะทำอะไรทั้งนั้นครับต่อมาเธอเปิดคอมแล้วยังไม่มีใครตอบเมล์กลับเธอก็ถามเขาว่าแล้วเราจะกลับบ้านและออกจากเกาะนี้ได้ยังไงกัน ซึ่งเขาก็ตอบไปว่าเขาก็ไม่รู้เหมือนกันครับแล้วเธอก็ถามต่อว่าทำไมเราถึงเป็นผู้ที่ถูกเลือกซึ่งเขาก็ปฏิเสธไปว่าไม่น่าจะใช่และเขาก็ไม่รู้ด้วยว่ามันเกิดอะไรขึ้นเขารู้แต่เพียงว่าสิ่งสำคัญตอนนี้ก็คือพวกเราจะทำยังไงกันต่อดีซึ่งเธอก็บอกว่าเธอแค่อยากจะกลับบ้านทำมันยังเหลือบ้านให้กลับครับหลังจากนั้นเขาก็ไปชงกาแฟมาให้เธอซึ่งมันก็ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อยแล้วทั้งคู่ก็ไป shopping ซื้อของที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต

ซึ่งดูเหมือนว่าจะซื้อมาเยอะมากๆ เธอเลยแซวไปว่าเราไม่มีตู้เย็นเพราะจะใส่ของพวกนี้ได้หรอกแล้วพระเอกก็คิดอะไรบางอย่างออกดังนั้นเขาก็เลยพาเธอไปยังบ้านพักหลังใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมและขนาดไปซื้อเสื้อผ้าเธอก็สงสัยว่าทำไมไฟยังเปิดอยู่เขาเลยตอบไปว่าเครื่องจักรทำความร้อนทั้งหมดมันทำงานอัตโนมัติดังนั้นมันคงจะอยู่ไปได้อีกสักพักหนึ่ง จนกว่าเครื่องจะพังซึ่งตอนนี้ดูเหมือนว่าพวกเขาจะสนุกสนานกับชีวิตที่เหลืออยู่กันแค่สองคนมากพวกเขาใส่เสื้อผ้าที่มีราคาแพงได้ทุกชิ้นเท่าที่เขาอยากจะใส่

เขาเมาด้วยเหล้าราคาแพงเท่าที่พวกเขาจะมาเอาก็ได้แล้วพวกเขาก็เล่นกันอย่างสนุกสนานโดยที่ไม่ต้องอายใครครับขณะที่เขากำลังเสิร์ฟกาแฟให้กับเธอเขาก็ถามเธอว่าเธอเชื่อในพระเจ้าไหมเธอจึงพยักหน้าแล้วบอกว่าเชื่อเขาจะพูดต่อว่าเธอคิดว่านี่เป็นส่วนหนึ่งในแผนของพระเจ้าเหรอแต่เธอก็ตอบว่าเธอไม่แน่ใจและถามเขากลับไปว่าเราจะทำยังไงกันต่อดีเขาจึงบอกว่าเขาไม่รู้ว่าผู้คนหายไปไหนกันหมดแต่เขารู้อย่างหนึ่งว่าตอนนี้โลกเป็นของเราแล้ว